![]() |
1. วิตามิน เบิกสวัสดิการด้านสุขภาพแบบยืดหยุ่นได้หรือไม่ |
![]() |
ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยาสามัญประจำบ้านแผนปัจจุบัน (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2550 รายการยาสามัญประจำบ้านแผนปัจจุบัน กลุ่มยาบำรุงร่างกาย ได้แก่ ยาเม็ดวิตามินบีรวม ยาเม็ดวิตามินซี ยาเม็ดบำรุงโลหิต เฟอร์รัส ซัลเฟต ยาเม็ดวิตามินรวม น้ำมันตับปลาชนิดแคปซูล น้ำมันตับปลาชนิดน้ำ ข้อมูลเพิ่มเติม |
![]() |
2. อาหารเสริม เบิกสวัสดิการด้านสุขภาพแบบยืดหยุ่นได้หรือไม่ |
![]() |
อาหารเสริมไม่อยู่ในรายการที่สามารถเบิกได้ หากแต่การให้อาหารทางสายยางตามแพทย์สั่ง กรณีผู้ป่วยไม่สามารถบริโภคอาหารตามปกติได้ ไม่ว่าอาหารนั้นจะเป็นอาหารเหลว อาหารทางการแพทย์ หรืออาหารเสริม ถือว่าเป็นค่าอาหาร สามารถเบิกเป็นค่ารักษาพยาบาลได้ ข้อมูลเพิ่มเติม |
![]() |
3. เกี่ยวกับยาบำรุงร่างกาย น้ำมันตับปลา ที่เบิกได้แต่หากเป็นน้ำมันปลา จะเบิกได้หรือไม่ |
![]() |
น้ำมันตับปลา เป็นรายการที่ระบุไว้ในบัญชียาสามัญประจำบ้านแผนปัจจุบัน หมวดที่ 16 ยาบำรุงร่างกาย จึงสามารถเบิกสวัสดิการด้านสุขภาพแบบยืดหยุ่นได้ ในส่วนน้ำมันปลา ไม่ได้ระบุไว้ จึงไม่สามารถเบิกได้ ข้อมูลเพิ่มเติม |
![]() |
4. การจัดฟัน เบิกสวัสดิการด้านสุขภาพแบบยืดหยุ่นได้หรือไม่ |
![]() |
การจัดฟันเพื่อความสวยงามไม่สามารถเบิกสวัสดิการด้านสุขภาพแบบยืดหยุ่นได้ ยกเว้นแพทย์จะระบุเพื่อเป็นการรักษาพยาบาล ข้อมูลเพิ่มเติม |
![]() |
5. การเจาะเลือด หรือรักษาพยาบาล ไม่มีใบรับรองแพทย์ได้หรือไม่ |
![]() |
หากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลของรัฐ หรือเอกชน ไม่ต้องแนบใบรับรองแพทย์ ยกเว้น กรณีเข้ารับการรักษาพยาบาลในคลินิกหรือโพลีคลินิก ข้อมูลเพิ่มเติม |
![]() |
6. ซื้อสินค้าออนไลน์ ผู้ขายได้ส่งใบเสร็จรับเงินให้ทางอีเมล สามารถนำมาเบิกได้หรือไม่ และต้องดำเนินการอย่างไร |
![]() |
ผู้ซื้อสามารถนำใบเสร็จพิมพ์ออกมา แล้วรับรองเอกสาร ดังนี้ “ข้าพเจ้าได้ซื้อสินค้าทางออนไลน์ ผู้ขายได้ส่งใบเสร็จรับเงินฉบับนี้ทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ จึงขอให้ใบเสร็จรับเงินฉบับนี้ในการขอเบิกสวัสดิการด้านสุขภาพ และหากปรากฏใบเสร็จฉบับจริง จะไม่นำมาเบิกอีก” ข้อมูลเพิ่มเติม |
![]() |
7. ใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ ถ้าไม่มีลายมือชื่อผู้รับเงิน มีแต่คำว่า เจ้าหน้าที่การเงิน และพิมพ์ ชื่อ สกุล เจ้าหน้าที่การเงิน ถือว่ารายการครบถ้วนมั้ย หรือว่าต้องให้ผู้เบิกเขียนรับรองใบเสร็จฯ |
![]() |
ใบเสร็จมีความสมบูรณ์ สามารถนำมาเป็นหลักฐานในการเบิกได้ ข้อความต่อไปนี้ ไม่ต้องเขียนใบรับรองแทนใบเสร็จ - การออกใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์ กรมสรรพากรจะมีระเบียบข้อปฏิบัติ ปกติจะพบคำว่า “เอกสารนี้ได้จัดทำและส่งข้อมูลให้แก่กรมสรรพากรด้วยวิธีอิเล็กทรอกนิกส์แล้ว” หากเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบใบเสร็จสามารถนำเลขที่ใบเสร็จไปตรวจสอบได้ที่เว็บไซด์กรมสรรพากร - ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีฉบับนี้ได้จัดทำขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้วไม่ต้องมีลายเซ็นของเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด ข้อมูลเพิ่มเติม |
![]() |
8. อุปกรณ์กีฬา หรือการออกกำลังกาย ไม่รวมอุปกรณ์เสริม ถ้าเป็นชุดว่ายน้ำ, เสื้อตีแบดมินตัน, เสื้อเทเบิ้ลเทนนิส ฯ จัดเป็นอุปกรณ์หรือไม่ |
![]() |
ชุดว่ายน้ำ เสื้อตีแบดมินตัน เสื้อเทเบิ้ลเทนนิส ฯ ชุดออกกำลังกาย สามารถเบิกสวัสดิการด้านสุขภาพแบบยืดหยุ่นได้ ข้อมูลเพิ่มเติม |
![]() |
9. คำว่าไม่รวมอุปกรณ์เสริม เช่น ยางปิงปอง เทปติดขอบ พลาสติก ฯ (เป็นอุปกรณ์ที่ใช้บำรุงรักษาไม้ปิงปอง) ถือเป็นอุปกรณ์เสริมเบิกได้หรือไม่ |
![]() |
หากซื้อรวมกันและอยู่ในใบเสร็จเดียวกันสามารถเบิกได้ เช่น ซื้อไม้เทนนิส เส้นเอ็น กิ๊ฟ เบิกได้ทั้งหมด หากซื้อแยกจะไม่สามารถเบิกได้ เหตุเพราะหากแยกรายการ จะไม่ทราบว่าเป็นอุปกรณ์กีฬาประเภทใด และหากมีรายการที่ไม่ใช่รายการอุปกรณ์กีฬาอยู่ในเสร็จเดียวกันจะตัดออก เช่น กระเป๋าใส่ไม้เทนนิส ข้อมูลเพิ่มเติม |
![]() |
10. รองเท้าสุขภาพแบบหุ้มส้นหรือรัดส้น หากใบเสร็จเขียนมาว่ารองเท้าสุขภาพก็ให้เบิกเลยใช่มั้ย หรือต้องให้ผู้ซื้อถ่ายภาพประกอบเพื่อดูว่ารัดส้นหรือหุ้มส้นด้วย |
![]() |
หากใบเสร็จเขียนรายการว่า “รองเท้าสุขภาพ” เป็นรายการที่ระบุไว้ในประกาศฯ สามารถเบิกสวัสดิการยืดหยุ่นได้ (เป็นความรับผิดชอบของผู้ซื้อ และผู้ขาย) ข้อมูลเพิ่มเติม |
![]() |
11. รองเท้าแตะเพื่อสุขภาพ เบิกได้หรือไม่ |
![]() |
รองเท้าแตะถึงแม้จะมีคำว่าเพื่อสุขภาพไม่สามารถเบิกได้ รายการที่เบิกได้คือรองเท้าเพื่อสุขภาพแบบหุ้มส้นหรือรัดส้น ข้อมูลเพิ่มเติม |
![]() |
12. ถุงเท้า เบิกได้หรือไม่ |
![]() |
หากเป็นถุงเท้าเพื่อการเล่นกีฬาโดยเฉพาะ สามารถเบิกได้ ข้อมูลเพิ่มเติม |
![]() |
13. ค่าคอนแทคเลนส์สายตาพร้อมอุปกรณ์ที่ต้องใช้ประกอบการใส่คอนแทคเลนส์ คือ น้ำยาล้างคอนแทค และที่เก็บแช่คอนแทคฯ และค่าสายตาที่ให้ระบุในใบเสร็จรับเงิน หากไม่ระบุในใบเสร็จแต่ปริ้นจากเครื่องวัดสายตาแยกมาประกอบได้หรือไม่ |
![]() |
น้ำยาล้างคอนแทค เบิกได้
|
![]() |
14. รายการสวัสดิการด้านสุขภาพแบบยืดหยุ่นที่เบิกได้ตามประกาศ ฯ ต้องมีรายการตามตารางนั้นเท่านั้น ใช่หรือไม่ |
![]() |
ปัจจุบันให้เบิกได้ตามรายการในบัญชีก่อน ข้อมูลเพิ่มเติม |
![]() |
15. รายการสินค้าที่เป็นเลขที่รหัสสินค้า หรือภาษาอังกฤษที่เป็นรุ่นของสินค้า สามารถนำมาเบิกสวัสดิการยืดหยุ่นได้ไหม |
![]() |
สามารถนำไปเบิกได้ โดยเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบจะนำชื่อสินค้า หรือรหัสไปค้นหาทางอินเตอร์เน็ต หากไม่พบข้อมูลจะแจ้งผู้เบิกนำเอกสารหลักฐานแนบเพิ่มเติม ข้อมูลเพิ่มเติม |
![]() |
16. เอกสารใบสำคัญรับเงิน สามารถใช้แทนใบเสร็จรับเงินได้หรือไม่ |
![]() |
ไม่ได้ เนื่องจากตามประกาศฯ ระบุให้ใช้ใบเสร็จรับเงินที่ผู้รับเงินเป็นผู้ออกให้เท่านั้น ข้อมูลเพิ่มเติม |
![]() |
17. ค่าบริการการนวดแผนไทย สามารถเบิกได้หรือไม่ |
![]() |
ค่าบริการการนวดแผนไทยที่ร้านนวดเบิกไม่ได้ จะเบิกได้เฉพาะค่าบริการกับแพทย์แผนไทยและเพื่อการตรวจและการรักษาโรคเท่านั้น ข้อมูลเพิ่มเติม |
![]() |
18. งบประมาณการเบิกสวัสดิการยืดหยุ่น หากใช้ไม่หมดสามารถสะสมได้หรือไม่ อย่างไร |
![]() |
หากใช้สิทธิเบิกเงินไม่เต็มวงเงิน ให้นำวงเงินที่เหลือในปีงบประมาณนั้นไปรวมกับวงเงินสวัสดิการในปีถัดไป แต่เมื่อรวมกันไม่เกิน 20,000 บาทต่อปีงบประมาณ ข้อมูลเพิ่มเติม |
![]() |
19. เก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพเบิกสวัสดิการด้านสุขภาพ ได้หรือไม่ |
![]() |
เก้าอี้สำนักงานเบิกสวัสดิการไม่ได้ ถึงแม้จะมีคำว่าเพื่อสุขภาพ ตามประกาศสวัสดิการด้านสุขภาพฯ ให้เบิกได้เฉพาะรายการที่กำหนดเท่านั้น ข้อมูลเพิ่มเติม |
![]() |
20. ตัวอย่างใบเสร็จรับเงิน กรณีรายการสินค้าเป็นรหัสหรือข้อความ |
![]() |
รายการสินค้า 232455-BBK_D’LUX WALKER ผู้ปฏิบัติงานสามารถค้นหาจาก Search Engine (เสิร์ชเอนจิน) คือ โปรแกรมค้นหา ที่ออกแบบมาให้เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับ ค้นหาข้อมูล ผ่าน Internet โดยใส่ชื่อรายการสินค้า จะปรากฎข้อมูลออกมาตามภาพ ข้อมูลเพิ่มเติม![]() ![]() |
![]() |
1. การเรียกร้องค่าสินไหมในการเบิกค่ารักษาพยาบาลจากบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด จะได้รับเงินอย่างไร |
![]() |
ได้รับค่าสินไหมในการรักษาพยาบาลโดยการโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ให้กับพนักงานมหาวิทยาลัยที่แจ้งเลขที่บัญชีธนาคารพาณิชย์ไว้กับงานสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ หากพนักงานไม่ได้แจ้งเลขที่บัญชีบริษัทฯ จะออกเป็นเช็คในนามของพนักงานผู้นั้น |
![]() |
2. ต้องการใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลคืนต้องทำอย่างไรบ้าง |
![]() |
บริษัทฯ ประกันจะคืนให้เมื่อใบเสร็จนั้น เบิกได้บางส่วน ไม่เต็มจำนวน หากบริษัทฯ ประกันเบิกค่ารักษาพยาบาลครบจำนวนในใบเสร็จ บริษัทฯ ประกันจะไม่คืนใบเสร็จให้ |
![]() |
3. ค่ารักษาพยาบาลของบุคคลในครอบครัว เมื่อส่งใบเสร็จให้งานสวัสดิการแล้ว จะโอนเงินเข้าบัญชีบุคคลในครอบครัวหรือตัวพนักงานมหาวิทยาลัย |
![]() |
บริษัทฯ ประกันจะโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ธนาคารพาณิชย์ที่แจ้งระบุไว้ของพนักงานมหาวิทยาลัย |
![]() |
1. เปิดรับสมัครตรวจสุขภาพให้กับข้าราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย(เปลี่ยนสถานภาพ) ลูกจ้างประจำ พนักงานเงินรายได้เมื่อไหร่ และ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าใด |
![]() |
จะเปิดรับสมัครตรวจสุขภาพให้กับข้าราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย(เปลี่ยนสถานภาพ) ลูกจ้างประจำ พนักงานเงินรายได้ที่สังกัดสำนักงานอธิการบดีประมาณเดือนมกราคมของทุกปี โดยจะแจ้งเวียนเปิดรับสมัครประมาณเดือนธันวาคม โดยจะได้รับการตรวจสุขภาพตามรายการที่โรงพยาบาลโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่หากต้องการตรวจสุขภาพมากกว่ารายการที่กำหนด จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเองโดยแจ้งกับโรงพยาบาลโดยตรง ในวันที่ตรวจ(เฉพาะโรงพยาบาลศิริราช) ข้อมูลเพิ่มเติม |
![]() |
2. เปิดรับสมัครตรวจสุขภาพให้กับพนักงานมหาวิทยาลัยเมื่อไหร่ และจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเท่าใด |
![]() |
จะเปิดรับสมัครตรวจสุขภาพให้กับพนักงานมหาวิทยาลัยประมาณเดือนเมษายนของทุกปี โดยจะแจ้งเวียนเปิดรับสมัครประมาณเดือนมีนาคม โดยจะได้รับการตรวจสุขภาพตามรายการที่โรงพยาบาลกำหนดภายในวงเงิน 1,200 บาท (บริษัทฯ ประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายภายในวงเงิน 1,200 บาท) หากพนักงานมหาวิทยาลัยต้องการตรวจสุขภาพมากกว่าที่กำหนด จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเองโดยแจ้งกับโรงพยาบาลโดยตรงในวันที่ตรวจ(เฉพาะโรงพยาบาลศิริราช) และสามารถตรวจกับโรงพยาบาลอื่นๆ ได้ โดยมาเบิกกับบริษัทประกันฯ ภายในวงเงิน 1,200 บาท ข้อมูลเพิ่มเติม |
![]() |
1. ข้าราชการ เมื่อลาออก หรือเกษียณ จะได้รับสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ใดจากรัฐ |
![]() |
ข้าราชการจะได้รับบำเหน็จบำนาญ บำเหน็จดำรงชีพ สวัสดิการรักษาพยาบาลของตนเองและบุคคลในครอบครัว |
![]() |
2. ข้าราชการที่บรรจุก่อนวันที่ 27 มีนาคม 2540 และสมัครกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ถ้าลาออกจากราชการและเลือกรับบำนาญ จะได้รับเงินอะไรบ้างจากกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ |
![]() |
ข้าราชการเป็นสมาชิก กบข. ลาออกจากราชการเลือกรับบำนาญ จะได้รับเงินประเดิม เงินชดเชย เงินสะสม เงินสมทบ และผลประโยชน์ |
![]() |
3. ข้าราชการที่เปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยและเป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ถ้าลาออกจากราชการ หรือเกษียณอายุราชการ เลือกรับบำนาญ และจะมีวิธีการคำนวณอย่างไร |
![]() |
การคำนวณบำเหน็จบำนาญจะเป็นไปตามกฎกระทรวงกำหนดบัญชีอัตราเงินเดือนเพื่อใช้ในการคำนวณเงินสะสม เงินสมทบ เงินชดเชย และบำเหน็จบำนาญของพนักงานมหาวิทยาลัย (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2565 ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2565 |
![]() |
4. ข้าราชการที่เปลี่ยนสถานภาพเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยและเป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ถ้าลาออกจากราชการ หรือเกษียณอายุราชการ เลือกรับบำนาญ และยังไม่ขอรับเงินคืนจาก กบข. ทำได้หรือไม่ |
![]() |
สามารถทำได้ โดยจะได้รับเงินบำนาญ ส่วนเงิน กบข. สามารถฝากให้ กบข. บริหารต่อได้ ซึ่งไม่ต้องส่งเงินสะสม และมหาวิทยาลัยไม่ต้องส่งเงินสบทบ และสามารถเปลี่ยนแปลงการบริหารหรือขอรับเงินคืนจาก กบข. ได้ภายหลัง |
![]() |
5. ลูกจ้างประจำ ถ้าลาออกจากราชการและประสงค์จะขอรับบำเหน็จรายเดือน จะต้องปฏิบัติงานเป็นระยะเวลาเท่าไร |
![]() |
ลูกจ้างประจำต้องมีเวลาปฏิบัติงานตั้งแต่ 25 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป สามารถแจ้งความประสงค์ขอรับบำเหน็จรายเดือนได้ |
![]() |
6. ลูกจ้างประจำที่เลือกรับบำเหน็จรายเดือน มีสิทธิได้รับสวัสดิการรักษาพยาบาลหรือไม่ |
![]() |
บำเหน็จรายเดือนไม่ได้รับสิทธิสวัสดิการจ่ายตรงรักษาพยาบาล |
![]() |
7. การขอรับบำเหน็จดำรงชีพ จะกระทำได้เมื่อใดบ้าง |
![]() |
เมื่อข้าราชการพ้นจากราชการและเลือกรับบำนาญ จะได้บำเหน็จดำรงชีพไม่เกิน 200,000 บาท
|
![]() |
8. กรณีข้าราชการ หรือผู้รับบำนาญถึงแก่ความตาย ทายาทจะได้รับอะไรจากทางราชการหรือไม่ |
![]() |
รัฐจะจ่ายเงินเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ทายาทของผู้ตาย หรือบุคคลซึ่งผู้ตายแสดงเจตนาไว้โดยจ่ายเป็นเงินก้อนครั้งเดียว เรียกว่า บำเหน็จตกทอด และเงินช่วยพิเศษ |
![]() |
9. ใครมีสิทธิได้รับบำเหน็จตกทอดจากทางราชการบ้าง |
![]() |
- ทายาทที่ถูกต้องตามกฎหมาย คือ บิดา มารดา คู่สมรส และบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย
|
![]() |
10. กรณีที่ทายาทของข้าราชการ หรือผู้รับบำนาญ ถึงแก่ความตาย และไม่ได้ทำหนังสือแสดงเจตนาไว้ต่อส่วนราชการเจ้าสังกัด บุคคลอื่นมีสิทธิได้รับบำเหน็จตกทอดหรือไม่ |
![]() |
กรณีที่ผู้ตายไม่มีทายาทตามกฎหมาย และไม่ได้ทำหนังสือแสดงเจตนาระบุตัวผู้รับบำเหน็จตกทอดไว้ ให้สิทธิในบำเหน็จตกทอดเป็นอันยุติลง |
![]() |
11. กรณีที่ผู้ตายไม่มีทายาทตามกฎหมายและไม่ได้ทำหนังสือแสดงเจตนาระบุผู้รับบำเหน็จตกทอดไว้ต่อส่วนราชการเจ้าสังกัด แต่มีญาติพี่น้องที่ได้ยื่นคำร้องต่อศาลขอเป็นผู้จัดการมรดก จะใช้คำสั่งศาลแต่งตั้งผู้จัดการมรดกเป็นหลักฐานการขอรับบำเหน็จตกทอดกรณีดังกล่าวกระทำได้หรือไม่ |
![]() |
ไม่ได้ เพราะผู้จัดการมรดกไม่สามารถขอรับบำเหน็จตกทอดได้เนื่องจากบำเหน็จตกทอด มิใช่ทรัพย์มรดกของผู้ตาย แต่เป็นเงินที่รัฐจ่ายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ทายาทของผู้ตาย โดยการตราเป็นกฎหมายไว้โดยเฉพาะบัญญัติให้แก่บุคคลตามที่กฎหมายกำหนด บำเหน็จตกทอดจึงเป็นสิทธิเฉพาะตัว ไม่สามารถยกให้แก่ผู้ใดหรือตกทอดไปถึงผู้ใดได้ ผู้จัดการมรดกจึงไม่มีสิทธิขอรับบำเหน็จตกทอดดังกล่าวได้ |
![]() |
12. ถ้าชื่อ-สกุลบิดา มารดา ของผู้ตาย หรือชื่อ-สกุลของผู้ตาย ในเอกสารแต่ละฉบับใช้พยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ไม่ตรงกัน จะสามารถใช้เอกสารใดเป็นหลักฐานในการขอรับบำเหน็จตกทอดได้หรือไม่ |
![]() |
กรณีนี้จะต้องมีหลักฐานอื่นประกอบ เช่น หนังสือรับรองจากทางสำนักงานเขต หรืออำเภอระบุว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน หรือหลักฐานการเปลี่ยนชื่อ-สกุล เป็นต้น |
![]() |
13. ถ้าบิดา มารดา ของผู้ตาย ได้ถึงแก่ความตายเป็นเวลานานแล้ว และไม่สามารถค้นหาใบมรณบัตรของบิดามารดา จะใช้หลักฐานใดในการยื่นขอรับบำเหน็จตกทอด |
![]() |
ติดต่อสำนักงานเขตเพื่อขอหนังสือรับรองการตายตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานเขตหรืออำเภอกำหนด หรือหนังสือรับรองการตายจากผู้ที่ควรเชื่อถือได้และไม่มีส่วนได้เสียในบำเหน็จตกทอดนั้น (เช่น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง พี่ น้อง ลุง ป้า น้า อา) หรือหนังสือรับรองการตายจากบุคคลที่เป็นข้าราชการระดับชำนาญงาน ชำนาญการ หรือเทียบเท่า หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจระดับ 5 |
![]() |
14. ถ้าบิดา มารดา ของผู้ตาย ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันแต่แต่งงานอยู่กินกันก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2478 บิดาจะมีสิทธิได้รับบำเหน็จตกทอดหรือไม่ และจะใช้หลักฐานใดประกอบในการยื่นขอรับบำเหน็จตกทอด |
![]() |
บิดามีสิทธิได้รับบำเหน็จตกทอด โดยใช้หลักฐานเป็นหนังสือรับรองของผู้ที่ควรเชื่อถือได้ที่รับรองว่าบิดามารดาสมรสก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2478 หรือสำเนาทะเบียนบ้าน หรือสูติบัตรของบุตรร่วมบิดามารดาเดียวกันกับผู้ตายซึ่งเกิดภายในปี พ.ศ.2478 หรือก่อนนั้น |
![]() |
15. หลักฐานที่แสดงถึงการเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย มีอะไรบ้าง |
![]() |
- สำเนาทะเบียนสมรสของผู้ตายกับมารดาของบุตร
|
![]() |
16. ถ้าข้าราชการผู้ใดตาย ก่อนตายได้มีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง และการสอบสวนยังไม่สิ้นสุดทายาทจะมีสิทธิได้รับบำเหน็จตกทอดหรือไม่ |
![]() |
ส่วนราชการต้องส่งเรื่องให้กระทรวงเจ้าสังกัดพิจารณาวินิจฉัยว่า ถ้าผู้นั้นไม่ถึงแก่ความตายเสียก่อนจะต้องได้รับโทษถึงไล่ออกหรือไม่ ถ้าเห็นว่าผู้นั้นจะต้องถูกลงโทษถึงไล่ออก ทายาทก็ไม่มีสิทธิได้รับบำเหน็จตกทอด แต่ถ้าพิจารณาแล้วผู้นั้นไม่มีความผิด หรือมีความผิดแต่โทษที่ได้รับไม่ถึงกับไล่ออก ทายาทก็ยังมีสิทธิได้รับบำเหน็จตกทอดตามปกติ |
![]() |
17. ถ้าการตายของข้าราชการเกิดจากการประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงของตนเอง ทายาทจะมีสิทธิได้รับบำเหน็จตกทอดหรือไม่ |
![]() |
ทายาทจะไม่มีสิทธิได้รับบำเหน็จตกทอดแต่อย่างใด |
![]() |
18. เงินช่วยพิเศษ (ค่าทำศพ) สามารถจ่ายให้กับบุคคลประเภทใดบ้าง |
![]() |
เมื่อข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และผู้รับบำนาญ ถึงแก่ความตาย ให้จ่ายเงินช่วยพิเศษแก่บุคคลที่ผู้ตายได้แสดงเจตนาระบุให้เป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินช่วยพิเศษไว้เป็นหนังสือยื่นต่อส่วนราชการเจ้าสังกัดตามแบบที่กระทรวงการคลังกำหนด |
![]() |
19. ถ้าผู้ตายได้ทำหนังสือแสดงเจตนาระบุตัวผู้รับบำเหน็จตกทอดไว้ แต่มิได้ส่งให้เจ้าหน้าที่ของส่วนราชการ หรือส่งให้เจ้าหน้าที่ของส่วนราชการแต่เจ้าหน้าที่ของส่วนราชการไม่ได้ลงชื่อไว้ หนังสือแสดงเจตนาระบุตัวผู้รับบำเหน็จตกทอดฉบับดังกล่าวจะมีผลหรือไม่ |
![]() |
ถ้าไม่ส่งหนังสือดังกล่าวให้กับเจ้าหน้าที่ของส่วนราชการ หนังสือแสดงเจตนาระบุตัวผู้รับบำเหน็จตกทอดจะไม่มีผลตามกฎหมาย หากได้ส่งให้เจ้าหน้าที่แล้วแต่เจ้าหน้าที่มิได้ลงลายมือชื่อในหนังสือแสดงเจตนาระบุตัวผู้รับบำเหน็จตกทอดไว้ ต้องให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบลงชื่อในหนังสือแสดงเจตนาระบุ ตัวผู้รับบำเหน็จตกทอดไว้ให้เรียบร้อยก่อน จึงจะมีผลตามกฎหมาย |
![]() |
20. กรณีที่บุคคลที่ผู้ตายแสดงเจตนาไว้ตายก่อนผู้แสดงเจตนา หรือถึงแก่ความตายก่อนที่จะมีการจ่ายเงินช่วยพิเศษ ใครมีสิทธิรับเงินช่วยพิเศษบ้าง |
![]() |
ผู้มีสิทธิรับเงินช่วยพิเศษตามลำดับเพียง 1 คนและต้องเป็นทายาทที่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนี้ คู่สมรส บุตร บิดา มารดา และถ้าบุคคลในลำดับก่อนยังมีชีวิตอยู่ บุคคลในลำดับถัดไปจะไม่มีสิทธิได้รับเงินช่วยพิเศษ |
![]() |
21. ผู้รับบำนาญและผู้รับบำเหน็จรายเดือน สามารถยื่นขอหนังสือรับรองสิทธิในบำเหน็จตกทอดได้รับเมื่อใดบ้าง |
![]() |
เมื่อได้รับบำนาญหรือบำเหน็จรายเดือนไปแล้วไม่น้อยกว่า 1 เดือน ติดต่อส่วนราชการต้นสังกัด ตรวจสอบหลักฐานทายาท ยื่นคำร้องขอรับหนังสือรับรองสิทธิในบำเหน็จตกทอดเพื่อใช้เป็นหลักทรัพย์ประกันการกู้เงินกับธนาคาร |
![]() |
22. ผู้รับบำนาญ และผู้รับบำเหน็จรายเดือน ได้ยื่นขอหนังสือรับรองสิทธิในบำเหน็จตกทอดไปแล้วทำหาย จะต้องดำเนินการอย่างไร |
![]() |
กรมบัญชีกลางจะออกหนังสือรับรองสิทธิในบำเหน็จตกทอดให้ครั้งเดียว ถ้าทำหายจะต้องแจ้งความ และยื่นขอใหม่พร้อมแนบใบแจ้งความเป็นหลักฐาน |
![]() |
23. ถ้าผู้รับบำนาญยื่นขอหนังสือรับรองสิทธิในบำเหน็จตกทอดไปแล้ว และมีเงินบำเหน็จดำรงชีพที่ยังไม่ได้รับ สามารถยื่นคำร้องขอรับได้หรือไม่ |
![]() |
ยื่นขอรับได้ โดยกรมบัญชีกลางจะประสานกับธนาคาร ในการโอนเงินที่ผู้มีสิทธิได้รับตามเลขที่บัญชีที่ธนาคารผู้ให้กู้บันทึกในระบบ Digital Pension |
![]() |
24. ผู้รับบำเหน็จรายเดือนถึงแก่ความตาย ทายาทมีสิทธิได้รับบำเหน็จตกทอดหรือไม่ ถ้ามีสิทธิจะได้รับจำนวนเท่าใด |
![]() |
ทายาทมีสิทธิได้รับบำเหน็จตกทอด ดังนี้
|
![]() |
25. ผู้รับบำนาญหรือผู้รับบำเหน็จรายเดือน ได้ยื่นขอรับหนังสือรับรองสิทธิบำเหน็จตกทอดเพื่อไปยื่นกู้กับธนาคารแล้ว ต่อมาถึงแก่ความตาย ทายาทมีสิทธิได้รับบำเหน็จตกทอดหรือไม่ |
![]() |
ธนาคารจะตรวจสอบหนี้คงเหลือและประสานกับกรมบัญชีกลางเพื่อเรียกเก็บส่วนที่ธนาคารได้จ่ายไป ที่เหลือจึงจะจ่ายให้กับทายาท |
![]() |
1. สมาชิกสามารถออมเพิ่มจากเดิมได้กี่เปอร์เซ็นต์ |
![]() |
สมาชิกสามารถออมเพิ่มได้ตั้งแต่ 1% - 27% เมื่อรวมกับอัตราเดิมตามที่กฎกระทรวงกำหนด 3% ต้องไม่เกิน 30% |
![]() |
2. สมาชิกต้องการออมเพิ่มกับ กบข. ต้องทำอย่างไร |
![]() |
สมาชิกสามารถแจ้งออมเพิ่มได้ผ่านช่องทางดังนี้
|
![]() |
3. เมื่อสมาชิกออมเพิ่มแล้ว รัฐจะสมทบให้ด้วยหรือไม่ |
![]() |
ไม่มีการสมทบเพิ่ม รัฐยังคงส่งเงินให้เท่าเดิม คือเงินสมทบ 3% และเงินชดเชย 2% |
![]() |
4. เมื่อสมาชิกออมเพิ่มแล้ว จะได้รับสิทธิประโยชน์ใดบ้าง |
![]() |
จะได้รับสิทธิประโยชน์ ดังนี้
|
![]() |
5. สมาชิกสามารถขอเงินออมเพิ่มคืนก่อนออกจากราชการได้หรือไม่ |
![]() |
ไม่สามารถทำได้ สมาชิกจะได้รับเงินออมเพิ่มเมื่อสิ้นสุดสมาชิกภาพเท่านั้น |
![]() |
6. สมาชิก กบข. ต้องระบุผู้รับผลประโยชน์ในการรับเงินหรือไม่ |
![]() |
สมาชิกไม่สามารถระบุผู้รับผลประโยชน์ได้ หากสมาชิกเสียชีวิตผู้มีสิทธิรับเงิน กบข. ได้แก่ ผู้จัดการมรดก หรือทายาทโดยธรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ |
![]() |
7. เมื่อสิ้นสุดสมาชิกภาพสมาชิกสามารถเลือกรับเงินคืนจาก กบข. ได้กี่วิธี |
![]() |
ได้ 5 วิธี คือ
|
![]() |
8. การเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกการบริหารต่อจะต้องทำอย่างไร |
![]() |
สมาชิกสามารถเปลี่ยนแปลงจำนวนเงิน หรือเปลี่ยนแปลงความถี่ในการรับเงินคืนปีละ 2 ครั้ง
ตามปีปฏิทินโดยเลือกดำเนินการดังนี้
|
![]() |
9. ถ้าสมาชิกออมต่อกับ กบข. ต่อมาถึงแก่ความตาย การขอรับเงินต้องดำเนินการอย่างไร |
![]() |
กรณีสมาชิกให้กบข.บริหารเงินต่อเสียชีวิต กบข. จะจ่ายให้ผู้จัดการมรดกเท่านั้น โดยใช้เอกสารประกอบการขอรับเงินคืน คือสำเนาคำสั่งศาลตั้งผู้จัดการมรดก และสำเนาสมุดบัญชีเงินฝากของผู้จัดการมรดก |
![]() |
10. สิทธิประโยชน์ทางภาษีเมื่อสิ้นสุดสมาชิกภาพ มีอะไรบ้าง |
![]() |
- กรณีสมาชิกกบข. ออกจากราชการด้วยเหตุเกษียณอายุ หรือออกจากราชการด้วยเหตุสูงอายุ(อายุตัว 50
ปีขึ้นไป), ทุพพลภาพ, ทดแทน, เสียชีวิต เงินก้อน กบข.
ที่ขอรับคืนจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องนำเงินที่ได้ไปคำนวณรวมเงินได้เพื่อเสียภาษีในปีนั้น
|